Rich (เสื้อแดงสวมผ้ากันเปื้อน) พ่อครัวมหัศจรรย์ ทำอาหารสไตล์โปแลนด์ให้พวกเราทาน อร่อยโคตร
อาหารแบบโปแลนด์ (ซ้าย) มันฝรั่งราดแกงกะหรี่ไก่ (ขวา) แคปซิคัมยัดใส้เนื้อแกะบดแล้วราด Toping ด้วยเห็ดย่าง
บรรดา Kitchen hand แต่ท่าทางจะช่วยอะไรไม่ค่อยได้ ทำให้พ่อครัววุ่นกว่าเดิมมากกว่า
งานแรก มีครอบครัวพี่จิตรและ Richard เป็นเจ้าภาพ พิเศษคือ Rich (ชื่อเล่นเป็นมงคลมาก.....กกกก) ทำอาหารสไตล์โปแลนด์ (Poliska Food) งงอะดิ นึกภาพไม่ออกเลยใช่มะ ไม่เป็นไรเราก็ไม่รู้เหมือนกัน Rich เข้าครัวทำอาหารล่วงหน้าสองวันสองคืนเพราะขั้นตอนการทำละเอียดและซับซ้อนมาก Entree เป็นแผ่นมันฝรั่งบดผสมกับครีมอะไรก็ไม่รู้เลยออกมาเป็นสีเทาดำ แล้วตบเป็นแผ่นเท่าฝ่ามือเอาไปย่างให้เกรียมนิดหน่อย เวลาทานราดซาวน์ครีมและเกลือเล็กน้อย อร่อยดี นุ่มๆ หยุ่นๆ กรอบๆ Main course มีสามอย่างคือ เนื้อแกะสับปรุงรสยัดใส้ในแคปซิคัม (พริกหวานสีเขียว) โรยด้วยเห็ดสีดำย่าง อย่างที่สองคล้ายกับสปาร์เก็ตตี้แต่เป็นมันฝรั่งบดผสมแป้งทำเป็นก้อนเล็กๆ ลวกน้ำร้อน แต่เหนียวและหยุ่นกว่าเส้นสปาเก็ตตี้เยอะ ราดด้วยน้ำแกงคล้ายแกงกระหรี่ไก่ (รายการนี้แหละใช้เวลาทำนานที่สุด) และสลัดเพื่อมาเบรกอาหารพวกเนื้อ ตบท้ายด้วย Dessert ดื่มชาร้อนแบบอินเดีย Chai tea กับ Brownie ล้างปาก
ทีมนักร้องนักดนตรี สู้ตายคร๊า..........
ทีมนักจั่ว (ไพ่ UNO) ก็สู้ตายเหมือนกันคร๊าบบบบบบ
คุยกันจนอิ่มใจแล้วชวนกันเล่นไพ่อูโน่ (UNO) และร้องเล่นกันเพลินถึงเที่ยงคืนจึงแยกย้ายกันกลับกลับบ้าน ปาร์ตี้งานนี้อบอุ่นเหมือนทำอาหารทานที่บ้านเพราะมีแต่คนไทยส่วนใหญ่ คุ้นเคยและเป็นกันเอง
ปาร์ตี้กับเพื่อนนักเรียนภาษาที่ร้านอาหารเกาหลี Goo Wa แถวตลาด Queen Victoria Market
ส่วนปาร์ตี้ที่สองเป็นหน้าที่ของเพื่อนสมัยโรงเรียนภาษาที่ Hawthorn พวกเราทั้งหมดเป็นกระเหรี่ยงเอเชียที่มาเรียนภาษาด้วยกันเมื่อพฤษภาคมสองปีที่แล้ว และตอนนี้ก็แยกย้ายกันไปเรียนตามคณะต่างๆ ในมหาวิทยาลัย ไปทานกันที่ร้านอาหารเกาหลี คล้ายกับร้านเนื้อย่างบ้านเรานี่เอง แต่อยู่นี่หาทานไม่ง่ายเหมือนบ้านเรา (เห็นหรือยังว่าบ้านเราอุดมสมบูรณ์กว่าเห็นๆ) แถมกินให้ห้องแอร์อีก กินเสร็จหัวเหม็นข้ามวันข้ามคืน ส่วนที่บ้านเรากินกลางแจ้ง อากาศดี ปลอดโปร่งดีจะตาย เอาหล่ะมัวแต่บ่น มาดูวิธีการกินของร้านนี้ดีกว่า ด้วยความที่เจ้าของเป็นชาวเกาหลี เขาจึงพยาย๊าม พยายามจะรักษารสชาติและวิธีการกินแบบดั้งเดิมไว้ มีทิปนิดนึงคือ ส่วนใหญ่เจ้าของร้านอาหารนานาชาติ (หมายถึงต่างชาตินอกจากอาหารฝรั่งและออสเตรเลีย) เจ้าของมักจะเป็นคนจีน รวมไปถึงร้านอาหารไทยหลายร้านเจ้าของก็เป็นคนจีนด้วย เพราะฉะนั้นเข้าไปในร้านก็จะได้ทานอาหารไทยสไตล์จีน รสชาติแปลกๆ แถมคนเสิร์ฟก็เป็นคนจีนแต่พยายามเอาใจพูดไทยกับเรา รู้สึก พิกล สรุปว่าพอคนจีนเป็นเจ้าของร้านอาหารชาติอื่น มันไปลงที่ทำให้อาหารชาตินั้นเพี้ยนไปเยอะ ดังนั้นหลายคนเลยเบื่อ ยอมจ่ายแพงไปกินร้านต้นตำรับดีกว่า ซึ่งรวมถึงร้าน Goo Wa ที่เราไปทานด้วย
Side dish สารพัดผักดองเกาหลี
พนักงานเสิร์ฟสาวเกาหลีแสนใจดีมาช่วยตัดเนื้อให้พวกกระเหรี่ยงหลังเขาทาน
เมื่อสั่งอาหารแล้ว เขาจะเอา Side dish คือเครื่องเคียงได้แก่ กิมจิ ผักดองสาระพัดแบบ และน้ำจิ้มงา (จืด) กับน้ำจิ้มพริกแดง (เผ็ด) มาพร้อมกับข้าวคนละตลับ (ไม่ได้เรียกผิดนะ ใส่มาเป็นตลับสเตนเลสเชียว) จากนั้นเตาย่างก็มาพร้อมกับวางเนื้อติดซี่โครงชิ้นยักหญ่ายบนเตาปิ้ง เวลาทานเขาจะให้เราสั่งเนื้อว่าสนใจอยากกินตรงไหนของวัว (หรือหมู) เช่น สันคอ ท้อง สะโพก หรือ น่อง แล้วจะหั่นมาเป็นชิ้นใหญ่มาย่าง พอสุกให้เราตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ทานเอง แต่ร้านนี้ใจดี มีพนักงานมาช่วยตัดเนื้อให้ คงเห็นหน้ากระเหรี่ยงแบบพวกเราแล้วคาดว่าพวกนี้กินแบบไฮโซไม่เป็นแน่นอน เลยต้องมาบริการ อีกมุมก็ตั้ง Hot pot เป็นกระทะเหมือนเอ็มเคสุกี้ แต่ใส่อาหารและน้ำซุปปรุงรสมาพร้อม ตั้งไฟให้เดือดตักทานได้เลย อีกเมนูคือหมูบุโกกิ สไลด์เป็นชิ้นบางๆ แต่แผ่นใหญ่หมักกับซอสพริกบ้านเขาแล้วเอาไปรวนในพริกแกงพอเนื้อเด้งๆ แล้วตักใส่แผ่นกระทะร้อนมาเสิร์ฟ ถ้าใครชอบเผ็ดเมนูนี้รับรองถูกปาก เวลาทานก็ไปแย่งเนื้อย่างของเพื่อนกิน เอ้ยไม่ใช่ เอากิมจิ ผักดองและน้ำจิ้มทั้งสองอย่าง ใส่ลงในจานแล้วตักข้าวสวยจากตลับไปคลุกให้เข้ากัน แล้วตักทานสลับไปกับเนื้อย่างและ Hot pot อร่อยเลิศ ปาร์ตี้นี้เหมือนสมัยเรียนปอตรีเพราะสดชื่น ครึกครื้นดี
Hot pot
Pork Bung Ko Ki ใส่มาในกระทะร้อนรูปหมู น่ากินมาเชียว
ไปๆ มาๆ รีวิวรอบนี้กลายเป็นครูกุ๊ก พาอรินทร์ทานอาหารนานาชาติซะแล้ว คาดว่าไม่พ้นปีใหม่นี้จะกลับไปกลมกลิ้งน่ารักเหมือนสมัยก่อนแน่นอน อุตส่าห์ไดเอทตอนอยู่บ้านตั้งนาน จะกลับมาอ้วนอีกรอบก็ตอนเรียนที่นี่แหละ เฮ้อ! ทุขลาภของคนวันสามสิบห้าจริงๆ
~~~~~~~~~@@@@@@@~~~~~~~~~~~
HIPPO is crazy architect student. I was born at E-sarn so my snout so flat within the square face, and shape angle chin but so sadly that I roughly bad on speaking Laos. I believe that eating "Pla Dake" everyday will increase my native language skill, that's why i'm really enjoy eat Som Tum Laos everyday. Currently, I'm doing post graduated course at school of ABP, Melbourne University. I found that one of the best way to made myself overcome the lonely moments at here is joining Blogger because it is very easy way that available me to keep in touch with u guys. I wish, at lease 3 years at one of most world liveable city, will be both enrich and reward my life and study. U r welcome to survey my small world and also to catch up u soon. Cheer :)
สมัครสมาชิก
บทความ [Atom]